เราจะสอนภาษาที่สองให้ลูกอย่างไรดี

วิธีง่าย ๆ ในการปลูกฝังภาษาอังกฤษให้ลูกก็คือ การสร้างบรรยากาศภายในบ้าน สร้างกิจวัตรประจำวันที่มีภาษาอังกฤษเข้ามาเกี่ยวข้อง ให้ลูกรู้สึกว่าภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวในชีวิตประจำวันของทุกคน เช่น 1. Good morning. สวัสดียามเช้าจ้า (พูดทันทีเมื่อเด็กตื่นนอน และกระตุ้นให้เด็กใช้ประโยคนี้กับคนอื่น ๆ ในบ้านเมื่อได้พบหน้ากันครั้งแรกตอนเช้า และใส่ชื่อของบุคคลต่าง ๆ ตามหลังไปด้วยจะไดเรียนรู้เพิ่มเติมอีกทางหนึ่ง เช่น Good morning,Papa, Good morning, Grandmother หรือ Good morning, Everyone.2.  It’s nap time. ได้เวลานอนแล้วจ้า3.  Do you like this? หนูชอบสิ่งนี้มั๊ยจ๊ะ (เปลี่ยนคำศัพท์แทนคำว่า this ได้เรื่อย ๆ เป็นการสอนคำศัพท์ใหม่ ๆ ไปในตัว...

ปัญหาว่าด้วยเรื่อง “นม”ของลูก

·    ถาม : ลูกขวบกว่ายังกินนมมื้อดึกอยู่ทำยังไงดี ?- เด็กวัยนี้ทานนมเป็นอาหารเสริมวันละ 18 -24 ออนซ์ และควรที่จะงดนมมื้อดึกได้แล้ว คุณแม่อาจใช้วิธีชงนมให้จางลง ไม่อร่อย จนกระทั่งใช้น้ำเปล่าแทน เพื่อให้ลูกรู้สึกว่านมมื้อดึกไม่อร่อย จะได้ไม่รู้สึกอยากกิน หรือค่อย ๆ ลดนมมื้อดึกครั้งละ 1 ออนซ์ ทุก ๆ 3-4 วัน ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ลูกค่อย ๆ ปรับตัวไปด้วย จนลูกเลิกกินนมมื้อดึกได้ในที่สุด ถ้างดนมมื้อดึกได้ลูกจะนอนหลับยาวตลอดทั้งคืน ซึ่งจะทำให้ฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตหลั่งออกมาได้ดี และช่วยลดปัญหาฟันผุด้วย ·    ถาม :ใช้นำเย็นชงนมลูกได้หรือไม่ ?- เมื่อก่อนเราจะชินกับการใช้น้ำอุ่นชงนมให้ลูก ปัจจุบันได้มีการพัฒนานมผง...

หากลูกไม่สบายเมื่อไหร่ควรพาไปหาหมอ

เมื่อลูกไม่สบาย บางครั้งเราก็สามารถดูแลให้หายเองได้ ไม่จำเป็นต้องพาไปหาหมอเสมอไป แต่อาจมีบางครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่แน่ใจว่าควรพาไปหาหมอหรือไม่ ในกรณีไหนควรพาลูกไปหาหมอได้แล้ว มีคำแนะนำมาฝากกันครับ การมีไข้เพียงอย่างเดียว ยังไม่ควรพาลูกไปหาหมอ ยกเว้นกรณีต่อไปนี้      ·   ลูกอายุต่ำกว่า 3 เดือน มีอุณหภูมิสูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส เพราะเด็กเล็กจะสักเกตอาการยาก ต้องรีบพาไปให้คุณหมอช่วยดู·   ลูกอายุเกิน 3 เดือน มีอุณหภูมิสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน เช่น ไม่ใช่หลังได้รับการฉีดวัคซีน·   ลูกมีไข้ร่วมกับการมีอาการหงุดหงิด งอแง หาสาเหตุไม่ได้ เช่นร้องกวนมากผิดปกติเวลาเปลี่ยนผ้าอ้อม...

10 วิธีรับมือโรคข้ออักเสบ

1.    ทำความเข้าใจกับอาการของคุณ - การทำความเข้าใจกับโรคคือก้าวแรกของการควบคุมโรคข้ออักเสบ ปัจจุบันมีองค์กรมากมายจัดทำแผ่นพับหรือเว็บไซต์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคข้ออักเสบแก่ประชาชนฟรี หรือจะเลือกปรึกษาแพทย์และผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขก็ได้2.   รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม- การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ จะช่วยให้ข้อสะโพกและข้อเข่าไม่ต้องแบกรับน้ำหนักมากจนเกินไป3.   ออกกำลังกาย – การออกกำลังกายช่วยให้กล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อแข็งแรง อาการปวดลดน้อยลงเคลื่อนไหวได้มากขึ้น และรู้สึกดีขึ้น ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญถึงรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวคุณดู แต่ไม่ว่าจะเลือกออกกำลังกายแบบใดต้องเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป...

ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อข้ออักเสบเฉียบพลัน

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการข้ออักเสบเฉียบพลันมีได้หลากหลายสาเหตุ ตั้งแต่อุบัติเหตุจากการหกล้ม ข้อพลิก หรือเป็นโรคเกาต์ โรคเกาต์เทียม การติดเชื้อโรคในข้อ และเลือดออกในข้อ ซึ่งผู้ป่วยอาจจะดูแลตัวเองด้วยวิธีการเบื้องต้นดังต่อไปนี้ก่อนจะไปพบแพทย์ หรือเผลอ ๆ อาจจะหายโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ก็ได้วิธีการดูแลรักษาเบื้องต้น ·    1-2 วันแรก พักและงดใช้งาน โดยอาจสวมปลอกหุ้มข้อหรือใช้ผ้าพันรอบข้อที่มักต้องมีการเคลื่อนไหว รวมถึงประคบรอบ  ข้อด้วยผ้าเย็นนานครั้งละ 15-20 นาทีทุก 4 ชั่วโมง ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นการปกระคบอุ่นด้วยผ้าชุบน้ำร้อนในวันรุ่งขึ้น โดยประคบนานครั้งละ15 นาทีทุก 4 ชั่วโมง หากต้องการใช้ยาแก้ปวด ให้รับประทานพาราเซตามอล 1 เม็ด (เม็ดละ...

การสร้างสายสัมพันธ์กับลูกน้อยก่อนคลอด

การเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์คือประสบการณ์ที่พิเศษสุด เมื่อเริ่มเข้าสู่การตั้งครรภ์ในเดือนที่ สอง ลูกตัวน้อยๆ จะมีตา จมูก และหูที่เรามองเห็นได้อย่างชัดเจนทางอัลตร้าซาวนด์ เมื่อถึงเดือนที่ห้า การได้ยินของ ลูกจะพัฒนาอย่างเต็มที่ ความสามารถใหม่ในการจดจำเสียงของคุณแม่และเสียงที่คุ้นเคยต่างๆ ในสภาพแวดล้อม รอบตัวเขาก็จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน การกระตุ้นลูกน้อยในครรภ์โดยใช้เสียงดนตรีที่เปิดให้เขาฟังเป็นประจำอาจช่วยให้ ลูกน้อยรู้สึกมั่นใจและผ่อนคลาย หลังจากที่คลอดออกมา นอกจากนี้ คุณแม่และลูกน้อยจะค้นพบวิธีอันแสนพิเศษอย่างรวดเร็วในการสาน ความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนพัฒนาการทางอารมณ์และสติปัญญาระหว่างกัน การเริ่มต้นการกระตุ้นลูกน้อยในครรภ์ด้วยเสียงดนตรี การกระตุ้นลูกน้อยในครรภ์นั้นคือการใช้สิ่งเร้า...

มหัศจรรย์แห่งพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์

ปัจจุบันเราทราบกันดีแล้วว่า เด็กในครรภ์สามารถรับรู้และเรียนรู้ได้แล้ว โดยเริ่มตั้งแต่การปฏิสนธิในครรภ์ ไปจนถึงไตรมาสสุดท้ายก่อนคลอด ซึ่งจะเป็นเวลาที่สำคัญที่สุดในการสร้างพื้นฐานการพัฒนาสมองของลูกน้อย เพราะขณะที่อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่ายกายลูกน้อยกำลังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น เซลล์สมองก็จะแตกกิ่งก้านสาขาออกไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน หากคุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองอย่างเพียงพอ ตลอดจนเรียนรู้วิธีกระตุ้นวงจรการทำงานของสมองลูกน้อยในครรภ์ได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้ายนับเป็นโอกาสทองที่คุณแม่จะสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับสมองของลูกในอนาคต พัฒนาการของร่างกายลูกน้อยในครรภ์ เดือนที่ 1 (หลังจากปฏิสนธิ...

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของคุณแม่ตั้งครรภ์

ไตรมาสที่ 1 (1-3 เดือน) ช่วงนี้รูปร่างของคุณแม่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังดูไม่ออกว่าตั้งครรภ์ จะเริ่มเห็นมีพุงนิด ๆ ในช่วงท้าย ๆ ของไตรมาสแรก น้ำหนักตัวของคุณแม่ยังคงเดิม หรือบางรายอาจมีน้ำหนักลดลงเล็กน้อย เนื่องจากคุณแม่อาจมีอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน รับประทานอาหารได้น้อยลง เพราะรู้สึกว่าอะไรก็ไม่อร่อย ดื่มน้ำยังขม เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ขี่เกียจ อยากนอนทั้งวัน ตอนเย็น ๆ บางรายอาจรู้สึกเหมือนมีไข้ตัวรุม ๆ ส่วนด้านอารมณ์ความรู้สึก ด้วยระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น ทำให้คุณแม่มีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แปรปรวนได้งาย อาจสับสน เครียด และกังวลใจ มีอาการแพ้ท้อง บางครั้งเอาแต่ใจตนเอง หงุดหงิด ขี้รำคาญ ขาดความมั่นใจ บางคนอาจซึมเศร้า ร้องไห้ได้...

ปวดหลัง มีทางแก้ แค่รู้วิธี

ปัจจุบันผู้ป่วยจำนวนมากที่มาพบแพทย์ด้วยกลุ่มอาการปวด หรือ Pain Syndrome โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดหลัง ซึ่งอาจจะเป็นได้ตั้งแต่การปวดเฉพาะช่วงเอว หรือปวดขึ้นมาถึงบริเวณต้นคอ โดยในรายที่ปวดมากอาจเคยได้รับการผ่าตัดมาบ้างแล้ว ส่วนรายที่เป็นไม่มากแม้จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ก่อความรำคาญให้เจ้าตัวไม่น้อย หรือบางคนต้องเปลี่ยนงาน เปลี่ยนอาชีพ หรือหยุดกิจกรรมบางอย่างจากการปวดหลังทีเดียว เพราะฉะนั้นเรียนรู้โรคปวดหลังเอาไว้บ้าง อาจช่วยคุณได้มากกว่าที่คิด สาเหตุของอาการปวดหลัง อาการปวดหลังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักที่พลได้บ่อยก็คือ ลักษณะท่าทางในการทำงาน ทั้งคนที่ทำงานนั่งโต๊ะอย่างงานออฟฟิศ หรือคนใช้แรงงานแบกหาม โดยกลุ่มที่ทำงานนั่งโต๊ะมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการคล้าย...

โรคเอดส์ไม่สามารถติดต่อได้ในกรณีใดบ้าง?

ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในทุกส่วนของโลก รวมทั้งประเทศไทยล้วนเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง ดังนั้นความรู้ความเข้าใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ อย่างน้อยทุกคนควรทราบว่าเอดส์ติดต่อและไม่ติดต่อในกรณีใดบ้าง.. จะได้มีความรู้ในการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม ไม่วิตกกังวลจนเกิดเหตุ เอดส์มีหนทางการติดต่อหลัก ๆ อยู่ 2 วิธี นั่นคือ ทางเพศสัมพันธ์และทางเลือด ซึ่งในกรณีหลังอาจเกิดจากการใช้เข็มและกระบอกฉีดยาเสพติดร่วมกับผู้ติดเชื้อเอดส์ การได้รับเลือดที่มีเชื้อเอดส์ หรือการถูกของมีคมที่มีเชื้อเอดส์ บางคนอาจกลัวการติดเชื้อ HIV จากการตัดผม ซึ่งในกรณีนี้เป็นไปได้ยากเช่นกัน เพราะเชื้อไม่สามารถอยู่ในอากาศได้นาน แต่โรคเอดส์จะไม่ ติดต่อในการดำเนินชีวิตประจำวันทั่วไป...

มาทำความรู้จักกับยาต้านไวรัส HIV

เป้าหมายในการรักษาด้วยยาต้านไวรัส HIV คือ การควบคุมจำนวนเชื้อไวรัส HIV ในร่างกายให้มีจำนวนน้อยที่สุด และนานที่สุด เป็นการเปิดโอกาสให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันหรือ ซีดี4 ขึ้นมาใหม่ จนอยู่ในระดับปกติ เพื่อให้ ซีดี4 ได้ทำหน้าที่ในการกำจัดและควบคุมเชื้อโรคต่าง ๆ เหมือนปกติ ซึ่งเป็นการป้องกันการป่วยด้วยโรคฉวยโอกาส หัวใจสำคัญของการรักษาด้วยยาต้านไวรัส HIV       1.   ยาต้านไวรัส HIV ไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อ HIV ไม่สามารถกำจัดเชื้อให้หมดไปจากร่างกายได้ ดังนั้น จึงต้องกินยาให้ตรงเวลาและต่อเนื่อง เพื่อไม่เปิดโอกาสให้เชื้อดื้อยาได้ง่าย และสามารถควบคุมเชื้อเอชไอวีไว้ได้ตลอดเวลา 2.  ยาต้านไวรัส HIV ไม่ได้ทำหน้าที่โดยตรงในการป้องกันและรักษาโรคฉวยโอกาส...

Page 1 of 39123Next

บทความสุขภาพที่เีกี่ยวข้อง